-dipen-บอกต่อ.jpg
25/ม.ค./2024

 

 

VVIP ZONE

“ไม่มีรูปภาพแสดง เนื่องจาก ทางคลินิกไม่ต้องการรบกวนความเป็นส่วนตัวของคนไข้มากเกินไป”

หัตถการที่คนไข้นิยมมาใช้บริการที่ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก ต่อเนื่องและเป็นประจำมากที่สุด คือ

  • program การฉีดโบ ทุกๆ 4-6 เดือน หรือทุกๆ 1 ปี
  • เลเซอร์ยกกระชับใบหน้า ลำคอ HIFU  ทุกๆ 4-6 เดือน หรือทุกๆ 1 ปี
  • เลเซอร์ยกกระชับใบหน้าด้วย RF (1200 shot)  ทุกๆ 1 ปี
  • Dual FMC ปรับคุณภาพผิวและเพิ่มความสว่างให้กับผิวทุกๆ 1 เดือน
  • Smart Light ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ หรือทุกๆ 1 เดือน

 

 

 

 


2-3.png
10/ม.ค./2024

 

 

รักษาสิวที่ ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก จ. อยุธยา

ทำไมถึงมั่นใจ….ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก

มั่นใจ..แพทย์
  • จบแพทย์ศาตร์ เมื่อปี พศ.2541 และ พศ 2542  ตามลำดับ, รักษาคนไข้ด้วยมาตรฐานวิชาชีพ และจริยธรรมทางการแพทย์
  • มีประสบการณ์การรักษาสิวมายาวนาน
  • มีประสบการณ์เกี่ยวกับผิวหนัง ความงาม เลเซอร์ มายาวนาน

 

มั่นใจ..ผลิตภัณฑ์
  • ทุกผลิตภัณฑ์ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ เป็นของคุณภาพสูง  ปลอดภัย ให้ผลลัพท์ตามที่แพทย์ต้องการหรือตามที่แพทย์คาดหวังไว้ได้

 

 

 

มั่นใจ..เจ้าหน้าที่
  • เจ้าหน้าที่ทุกคนเอาใจใส่ ดูแลคนไข้ ด้วยความตั้งใจ และอยากช่วยทำให้คนไข้หายจากปัญหาที่พบเจอไวที่สุด

 

มั่นใจ.. สบายใจ ในการเลือกใช้ และคัดกรองเทคโนโลยีเลเซอร์ต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน  ที่จำเป็นมาควบคู่หรือผสมผสานเข้าด้วยกัน

เพื่อให้ได้ผลลัพท์การรักษาที่ดีที่สุด โดยไม่บีบบังคับ หรือกดดันคนไข้  คนไข้สามารถเลือกที่ทำหรือไม่ทำเลเซอร์ต่างๆได้ อย่างสบายใจ ไม่มีบรรยากาศกดดันขายคอรส์

 

มั่นใจ.. ประหยัด ถึงแม้ทำเลเซอร์หรือทรีตเมนท์ควบคู่ไปด้วย

ทางคลินิกจะคัดกรองเทคโนโลยีเลเซอร์ หรือเครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ ในการรักษาสิว

หากเทคโนโลยีนั้นดี แต่อาจจะไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เนื่องจากหากสามารถทดแทนด้วยการ
ใช้บางอย่างที่ดีเหมือนกันหรือดีกว่า และที่สำคัญมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า  ทำแทนได้ จะทำให้ประหยัด
ค่าใช้จ่ายในการรักษาสิวไปได้มาก โดยที่ให้ผลการรักษาที่ดี หรือดีกว่าได้ ทั้งๆที่ประหยัดกว่า ส่วนต่างของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
สามารถเลือกทำ เลเซอร์ชนิดอื่นเพิ่มเติมได้อีก เพื่อให้ผิวดีมากขึ้น เห็นผลไวมากขึ้น

 

 

มั่นใจผลการรักษา

“สบายใจ  หายไว ไม่แพง หายแล้ว ดูแลตัวเองต่อไปได้  โดยมีคลินิกเป็นเหมือนเพื่อน นานๆเจอกันที”

 

 

ขั้นตอนและวิธีการรักษา

 

พบแพทย์

เพื่อตรวจผิว   วิเคราะห์การเกิดสิว ชนิดของสิว ให้ความรู้เรื่องสิว แนะนำการดูแลเรื่องสิว รักษาที่ต้นเหตุ

 

ใช้ยาและผลิตภัณฑ์ของคลินิก

ตามการประเมินของแพทย์ ตามชนิดและความรุนแรงของสิว

 

มาตามแพทย์นัด

โดยปกติ ช่วงแรกจะนัดทุก1-2 สัปดาห์ (หรือตามคนไข้สะดวก),  เพื่อเพื่อเคลียร์สิวอุดตัน ด้วยการกดสิว ,  +- ฉีดสิว เพื่อคุมสิวอักเสบ, ปรับเปลี่ยนยา

 

แพทย์จะประเมินผลการรักษาทุกครั้งที่นัด  และจะมีคำแนะนำเฉพาะบุคคล

ตามปัญหาของคนไข้ในแต่ละคน  เพื่อให้ผลการรักษาที่ดี เป็นไปอย่างที่ต้องการ
ซึ่งหากทำตามคำแนะนำที่แพทย์ให้ได้ สิวจะหายเร็วตามมาตรฐานของ ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก

 

ค่าเฉลี่ยการรักษาสิวให้ดีขึ้นมากในกลุ่มสิวทั่วๆไป 

จะอยู่ประมาณ 1 เดือน หลังการรักษา (พบแพทย์ 4 ครั้ง) โดยที่ไม่ได้ทำเลเซอร์ หรือทรีตเมนท์ใดๆ

(ยกเว้นกลุ่มสิวรุนแรง, กลุ่มสิวปริมาณมาก, กลุ่มสิวสเตียรอยด์, กลุ่มสิวที่เกิดจากครีมผสมสารอันตราย, กลุ่มที่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ไม่ได้ ,กลุ่มที่ประหยัดยาทามากจนเกินไป จนมีผลต่อการรักษา,  กลุ่มที่มาตามนัดในช่วงแรกทุกสัปดาห์ไม่ได้ ซึ่งกลุ่มทั้งหมดจะใช้เวลานานขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยของคลินิก)

หมายเหตุ เป็นการประเมินจากมุมมองของแพทย์ที่รักษาในคลินิก ซึ่งเป็นมุมมองส่วนตัวเท่านั้น อาจจะให้ผลลัพท์ที่แตกต่างกันออกไปในคนไข้แต่ละคน

 

เลือกที่จะทำ ……หรือเลือกที่จะไม่ทำ  เลเซอร์ต่างๆได้ ด้วยตัวของเราเอง   ดีกว่า….เหมือนจะเลือกเองนะ แต่เลือกเพราะถูกกดดันให้เลือก?

หากต้องการทำเลเซอร์ ทรีตเมนท์ต่างๆเพิ่มเติม สามารถเลือกทำได้  เพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้น และไวขึ้น
เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเลเซอร์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน

เลเซอร์บำรุงผิว ดูแลภาพรวมสิว

เลเซอร์รักษาหลุมสิว

เลเซอร์รักษารอยดำ

เลเซอร์รักษารอยแดง

ทรีตเมนท์รักษาสิว และรอย

 

หายแล้ว คนไข้สามารถเลือกใช้ยา ผลิตภัณฑ์คลินิก ได้ตามใจชอบ โดยมีแพทย์เป็นที่ปรึกษา 

และเน้นแนะนำการดูแล ควบคุมสิวในระยะยาว คนไข้จะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เองตามงบประมาณที่ตั้งไว้
และสามารถมาปรึกษาแพทย์ มาฉีดสิว หรือมากดสิวที่เกิดขึ้นตามฮอร์โมนได้ หรือกลุ่มคนไข้ที่เป็นสิวง่ายมาก มีสิวที่เกิดขึ้นแต่ไม่มาก เช่น 1-5 เม็ดต่อเดือน
โดยปกติจะแนะนำมาเคลียร์สิวประมาณ 1-2 เดือน/ครั้ง

 

(ชนิดของสิวแบบต่างๆ)

(สิวอุดตันแบบฝัง,สิวอักเสบเม็ดเล็ก,เม็ดกลาง,สิวหัวช้าง,สิวแข็งมีไต,สิวฝีหนอง,สิวและมีผื่นร่วมด้วย,สิวสเตียรอยด์,ผื่นสเตียรอยด์,สิวฮอร์โมน,สิวและผิวแพ้ง่าย,สิวชนิดความรุนแรงมากๆ
,สิว+รอยดำ+รอยแดง)

หมายเหตุ*ผลการรักษาจากมุมมองคลินิก เป็นการประเมินด้วยตัวเองของทางแพทย์ประจำคลินิกเอง ผลที่ประเมินอาจจะคลาดเคลื่อนได้และมีผลลัพธ์แตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละคนได้

 

 

 

 

 

 

 


-beauty-web.png
05/ม.ค./2024

 

คำถามที่พบบ่อย หรือสิ่งที่ควรทราบ สำหรับคนไข้ที่ไม่เคยรักษาสิวมาก่อน หรือยังไม่เคยมารักษาสิวที่ ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ จ. อยุธยา
  • ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ ไม่ได้ทำเป็นคอร์สรักษาสิว เนื่องจาก สิวมีสาเหตุการเกิดแตกต่างกันออกไป ทั้งปัญหาเรื่องพื้นฐานผิวหน้า, ปัญหาที่เกิดร่วม
    กับการเป็นสิว เช่น ผื่นแพ้, ผื่นติดสเตียรอยด์, ผิวแพ้ง่าย เป็นต้น ร่วมถึง ระดับความรุนแรงของสิวที่แตกต่างกันออกไปของคนไข้แต่ละคน
    การ fix กำหนดตัวยา หรือวิธีการรักษาไว้ล่วงหน้า  ทำให้เกิดช่องว่างของราคาสูงมากเกินไป   และอาจเกิดการรักษาที่มากเกินจำเป็น
    ในคนไข้สิวปกติ, สิวไม่มาก หรืออาจจะน้อยไปในคนไข้ที่เกิดสิวชนิดรุนแรงมากๆ ที่ต้องการการดูแลบางอย่างเป็นพิเศษ แต่ไม่ใช้การเร่งทำเลเซอร์
    หรือเร่งการทำทรีตเมนท์ ซึ่งอาจจะให้ผลตรงกันข้าม เกิดผลการรักษาที่แย่กว่าเดิมได้ทางดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ จึงไม่มีคอรส์รักษาสิว  แต่จะให้การรักษาที่ตรงจุด ตามสาเหตุ หรือตามปัญหาที่คนไข้แต่ละคนมี  ตามการวินิจฉัยของแพทย์

    • เป็นสิวน้อย   ค่าใช้จ่ายโดยรวมน้อยกว่า เพราะหายไวกว่า เจอแพทย์น้อยกว่า
    • เป็นสิวมาก ค่าใช้จ่ายโดยรวมมากกว่า เพราะหายช้ากว่า เจอแพทย์บ่อยกว่า นัดบ่อยกว่า
  • ทางคลินิกไม่บังคับให้ทำเลเซอร์หรือทรีตเมนท์ เป็นแค่ทางเลือกที่ดีกว่าไม่ทำเท่านั้น
  • ในกรณีคนไข้ที่ต้องการทำเลเซอร์เพื่อช่วยรักษาสิว รักษารอย รักษาหลุมสิว ต่างๆนั้น เมื่อแจ้งให้แพทย์ทราบ แพทย์จะแนะนำชนิด และช่วงเวลาให้การทำที่
    เหมาะสมให้ เนื่องจาก การเร่งทำเลเซอร์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่างๆ ในจังหวะที่ผิด จะให้ผลเสียมากกว่าผลดี
  • เลเซอร์หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่างๆ เพื่อช่วยเรื่องการรักษาสิวให้หายไวขึ้น บางชนิดอาจจะทดแทนด้วย อะไรบางอย่าง ซึ่งให้ผลดีเหมือนกัน
    หรือดีกว่า ในราคาที่ประหยัดกว่ามากๆ ดังนั้น คนไข้ไม่มีความจำเป็นต้องทำทุกอย่างที่มีในโลกนี้ เพื่อให้หายไวกว่าคนไข้ที่ไม่ได้ทำ

 

ค่าใช้จ่าย (ไม่รวมเลเซอร์ต่างๆ หรือทรีตเมนท์)

ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง จะประเมินรวมจาก ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ทางคลินิกจัดให้ , foam, ตัวยารับประทานทุกตัว(ถ้ามี), ยาทาทุกตัว, การกดสิวทั่วหน้า, การฉีดสิวทั่วหน้า

กรณีคนไข้ต้องการเร่งผลการรักษา สามารถแจ้งแพทย์ หรือเจัาหน้าที่เพิ่มเติม เพื่อขอรับตัวยารักษาเพิ่มเติมได้ ไม่ต้องการรอปรับยาในสัปดาห์ต่อไป เนื่องจากแพทย์จะทยอยให้ยาในแต่ละสัปดาห์ โดยเรียงตามปัญหาคนไข้ที่เกิดมากไปหาน้อย

กรณีต้องการทำหน้า หรือต้องการข้อมูลทำหน้าเพิ่มเติม โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่หรือแพทย์ให้ทราบ เนื่องจากทางคลินิกไม่มีพนักงาน sale ในคลินิก , เจ้าหน้าที่ในดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ จะแค่แนะนำคร่าวๆว่าสามารถทำเลเซอร์อะไรบ้าง ที่จะช่วยผลการรักษาเรื่องสิวให้หายไวขึ้นได้

  • คนไข้ใหม่ (ต่อการนัด 1 ครั้ง)
    • ประมาณ 700-900 บาท ต่อ สัปดาห์
    • ประมาณ  1,100-1,300 ต่อ 2 สัปดาห์
    • ประมาณ  1,xxx-2,000 บาทต่อเดือน
  • คนไข้เก่าที่หายแล้ว
    • ประมาณ 500-2,xxx บาทต่อ 1-2 เดือน
  • อัตราค่ายาที่เกิดขึ้น เป็นปริมาณยา+การรักษาที่แพทย์ให้ ซึ่งจะสามารถควบคุมผลการรักษาสิว รอยดำต่างๆ ผิวสว่างใสให้ดีขึ้น ในอัตราการหายที่เร็วมากแล้ว
    เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาสิวของดีเพ็ญ คลินิกแล้ว
  • กรณี คนไข้ใหม่ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งที่รักษาลง เช่น 500-700 บาทต่อสัปดาห์ เป็นต้น  ทางคลินิกยินดี คนไข้สามารถแจ้งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่คลินิกได้
    โดยแพทย์จะลดปริมาณยาที่ใช้รักษาลง และจะยังคงได้ผลการรักษาที่ดีอยู่ได้ แต่ผลการรักษาอาจจะช้าลง และอาจจะใช้ระยะเวลารักษานานขึ้นย่อมเป็นเรื่องปกติ

    • กรณี แพทย์ลดการจ่ายยาลงแล้ว คนไข้ต้องเข้าใจจริงๆ ว่าหายช้ากว่าปกติบ้าง ก็ไม่ควรเร่งผลการรักษามากจนเกินงาม เพราะการเร่งผลการรักษาที่คนไข้ต้องการนั้น
      บางครั้งอาจจะต้องใช้ยาเพิ่ม
    • การลดปริมาณการทายารักษาสิวต่างๆ ที่ทางแพทย์ให้ไป เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ทาบ้างไม่ทาบ้าง, ทายาหรือครีมบางมากเกินไป
      ทำให้ปริมาณยาที่ออกฤทธิ์ที่ผิวหนังมีน้อยมากเกินไป  ให้ผลการรักษาที่ไม่ดี
      คนไข้ที่ต้องการประหยัด ควรทายาตามปกติที่ควรจะเป็น เพื่อให้หายไวที่สุด แล้วจะได้ดูแลตัวเองต่อได้ หรือนัดห่างขึ้น นานๆรับยาที
    • คนไข้ที่รักษากับทางคลินิก ในช่วงที่รักษา ต้องใช้ยาของคลินิกเท่านั้น เพื่อให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด

ค่าใช้จ่ายในการรักษาสิวของดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก ประกอบด้วย

  • ทายา ผลิตภัณฑ์ครีม โฟมล้างหน้า กันแดด เป็นต้น ซึ่งเป็นของคุณภาพสูง ปลอดภัย ให้ผลการรักษาที่ดี
  • ยารับประทาน ตามความเห็นแพทย์
  • ฉีดสิวทั่วหน้า ราคา 200 บาท
  • กดสิวทั่วหน้า ราคา 80 บาท โดยพนักงานของดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิกที่มีความชำนาญ ปลอดภัย ด้วยเครื่องที่สะอาด
    • รับเฉพาะคนไข้ที่รักษากับทางคลินิกเท่านั้น
    • ไม่รับกดสิวในบุคคลทั่วไป หรือบุคลที่ไม่ได้รับการรักษากับทางคลินิก
      หรือบุคคลที่ทายารักษาสิวเอง แต่ต้องการมากดสิวกับทางคลินิก เพื่อป้องกันปัญหาที่ตามมา
    • กรณีคนไข้เก่า ขอสงวนสิทธิ์กดสิว ในคนไข้ที่ยังคงมีการใช้ยาของทางคลินิกต่อเนื่องบ้าง
  • ไม่มีค่าใช้จ่าย ค่าวิชาชีพแพทย์ ค่าตรวจวินิจฉัย ค่าให้คำปรึกษา แต่อย่างใด
  • เลเซอร์ต่างๆ ทรีตเมนท์ต่างๆ สามารถเลือกทำได้ ราคาในช่วง 500-5000 บาทต่อครั้ง  แต่ละตัวมีคอรส์เพื่อสามารถทำต่อเนื่องได้และประหยัดขึ้น


IMG_1544-1200x900.jpg
27/ก.ย./2023

ทำไมคนไข้ถึงไว้วางใจเลือกทำหน้าที่ ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก จ.อยุธยา

 

บรรยากาศของความสบายใจ ไม่อึดอัด ไม่กดดัน เป็นกันเอง
  • ทางคลินิกจะไม่มีนโยบายกดดันขายคอรส์ เนื่องจาก ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิกมองว่า คนไข้ควรจะได้ทำในสิ่งที่คนไข้อยากจะทำ และไม่ควรจะทำมากเกินกว่าความต้องการ
    และกำลังของคนไข้ การสร้างความกดดันให้คนไข้รู้สึกด้อยค่า กับปัญหาที่คนไข้มี หรือกับปัญหาที่คนไข้ไม่ได้กังวลเป็นสิ่งที่แพทย์ไม่ควรทำ
    จะมีแค่การแนะนำเบื้องต้นให้คนไข้ทราบคร่าวๆ ว่าคลินิกมีบริการอะไรบ้าง กับปัญหาที่คนไข้ถามมา หรือปัญหาที่คนไข้กำลังเป็นอยู่
  • ไม่มีการขายคอรส์เพิ่มกับปัญหาที่คนไข้ไม่ได้ถาม
  • ไม่มีการตามไปขายข้างเตียงทำหน้า, ไม่มีการสร้างบรรยากาศกดดันการขาย ที่จะทำให้คนไข้อึดอัด ด้อยค่าหรือรู้สึกไม่ดี หากไม่ซื้อคอรส์
  • ไม่มีการกดดันให้ต่อคอรส์ หากคอรส์เดิมกำลังจะหมด
  • เมื่อคนไข้ซื้อคอรส์แล้ว จะไม่มีการกดดันให้คนไข้ซื้อคอรส์ชนิดอื่นๆเพิ่มอีก
ความไว้วางใจ
  • ทางคลินิกขอขอบคุณที่ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้จำนวนมากมาย ที่ได้ช่วยแนะนำบอกต่อๆกัน จากรุ่น สู่ รุ่น ตลอดระยะเวลาที่ได้เริ่มเปิดในจ.อยุธยา ตั้งแต่ปี พศ 2552
    ด้วยความมั่นใจ ในผลการรักษาที่ได้รับ
  • แพทย์จบแพทย์ศาตร์ เมื่อปี พศ.2541 และ พศ 2542  ตามลำดับ, มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับความงาม เลเซอร์ ยาวนาน
  • แพทย์เป็นที่ปรึกษาของทุกปัญหาผิวทั้งความสวย ความงาม และโรคผิวหนัง ของคนในครอบครัว

มีครบทุกปัญหาผิว ได้ผลดี แต่ราคาไม่แพง
  • ทางคลินิกมีเลเซอร์ ทรีตเมนท์ในการดูแลทุกปัญหาผิวหน้าครบทั้งเรื่อง สิว ฝ้า กระ รูขุมขน ความหย่อนคล้อย รอยดำ รอยแดง  กระชับผิวหน้า การดูแลผิวหน้าแบบย้อนวัย
    การดูแลผิวที่ดีให้ดียิ่งขี้น การเตรียมผิวสว่างใสสำหรับงานใหญ่ในอนาคต
  • ราคาไม่แพง เนื่องจาก ทางคลินิกไม่มีนโยบายยัดเยียดคอรส์ให้คนไข้ ดังนั้น คนไข้จะสามารถเลือกคอรส์ที่ตนเองต้องการได้ตามงบประมาณที่อยู่ในใจคนไข้ตั้งแต่แรก
    และส่วนมากจะต่ำกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ เนื่องจากแพทย์จะให้คนไข้ทำหน้าเท่าที่จำเป็น ตามปัญหาของคนไข้ที่ถามมา
  • เลเซอร์ ทรีตเมนท์ ที่ทางคลินิกเลือกใช้กับปัญหาคนไข้ จะให้ผลการรักษาที่ดีเสมอ เนื่องจาก แพทย์จะไม่แนะนำการรักษาที่ไม่ได้ผลกับปัญหาที่คนไข้มี หรือเกินความคาดหวังกับคนไข้ตั้งแต่แรก
  • ราคาเลเซอร์และทรีตเมนท์ต่างๆ ที่ใช้ดูแลผิวหน้า แก้ปัญหาต่างๆ  ช่วงราคาประมาณ 500-14,000 บาทต่อครั้ง  (มีราคาคอรส์ เพื่อทำต่อเนื่อง และประหยัดมากขึ้น)
  • ราคาเลเซอร์ที่ใช้ยกกระชับใบหน้า ลำคอ เช่น hifu, TherM. CPT 1,200 shot ช่วงราคาประมาณ 6,900-49,000 บาท ต่อครั้ง
  • มีการฉีดสารโบทูลินั่ม ท๊อกซิน การฉีดสารเติมเต็ม
จุดเด่นการทำเลเซอร์ต่างๆหรือทรีตเมนท์ต่างๆ ที่ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์คลินิก
  • การผสมผสานความรู้ทั้งทางด้านเลเซอร์ ,ทั้งทางการแพทย์ผิวหนัง และประสบการณ์จริงของแพทย์ในการดูแลผิวหนังและความงามมาตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี  ในการปรับเปลี่ยนค่าพลังงาน parameter ต่างๆ ที่ใช้ในเครื่องมือเลเซอร์,
    ผสมผสานเทคนิกส่วนตัว จากการสะสมความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ เข้าด้วยกัน  ทำให้เลเซอร์แต่ละเครื่อง แสดงผลที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดออกมา ให้คนไข้ที่มารับการรักษามั่นใจได้ว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีสุด เท่าที่ทางคลินิกมอบให้ได้
  • สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ในราคาที่สบายกระเป๋า
  • แพทย์แนะนำ คุณเป็นผู้เลือกเอง  ดีกว่า…เหมือนจะเลือกเอง แต่ถูกกดดันให้เลือก?
  • ใช้เครื่องเลเซอร์กลุ่มที่ช่วยถนอมผิว ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงใด ๆ ทั้งสิ้น , กลุ่มเลเซอร์ที่มีความเสี่ยงสูง หลังการทำต้องมีข้อห้ามมากมาย หากทำตามไม่ได้จะเกิดผลเสียนั้น ทางคลินิกจะไม่เลือกใช้  จึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยแน่นอน ไม่มีความเสี่ยงในการทำ เพราะถ้าเสี่ยงแพทย์จะไม่ทำให้
  • คัดสรรใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ เครื่องมือทันสมัย ปลอดภัย ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารเเละยา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทุกชิ้น ทุกเครื่อง

 

ความเป็นส่วนตัว ผ่อนคลาย
  • ทางคลินิกมีห้องทำหน้าแยกเป็นห้องส่วนตัว
  • ทำหน้าแก้ปัญหาที่มี และสามารถผ่อนคลาย พักผ่อนไปในตัว
  • เจ้าหน้าที่ทุกคนในคลินิกให้ความสำคัญและให้เกียรติกับคนไข้ทุกคน
    โดยคนไข้สามารถแจ้งความต้องการเพิ่มเติมได้ เช่น การให้ทางคลินิกโทรแจ้งกำหนดการทำหน้าเมื่อถึงเวลาได้, ต้องการทราบรายละเอียดการดูแลผิวหน้าแบบอื่นๆเพิ่มเติม เป็นต้น

คำแนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าแบบง่ายๆ ครบงานผิว ให้ผิวที่ดูดี ดูดีไปเรื่อยๆ ทำเพียงเดือนละ 1 ครั้ง
  • การทำหน้าเพียงเดือนละ 1 ครั้ง หากเลือกชนิดของเลเซอร์หรือเครื่องมือที่มีคุณภาพที่ดีมากพอและถูกต้องแล้ว ก็เพียงพอที่จะดูแลผิวหน้า
    ในภาพรวมทั้งหมดแล้ว ทั้งเรื่องความสว่าง ใส ลดรอยดำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 
  • สามารถเลือกดูแลผิวหน้าเพียง เดือนละ 1 ครั้ง 
    • เพียงพอทั้งในการดูแลผิวหน้าที่มีปัญหาอยู่บ้างให้ดีขึ้น 
    • เพียงพอในการดูแลผิวที่ดีอยู่แล้วให้ดีไปเรื่อยๆ เป็นการชะลอวัย
      ลดการเสื่อมถอยของริ้วรอย ที่เกิดจากการลดลงของคอลลาเจนในทุกๆปี

    • ถือเป็นการดูแลตัวเอง ให้รางวัลกับตัวเอง เสริมบุคลิกภาพ เหมือนการออกกำลังกาย ให้ผิวดูดี แข็งแรงไปนานๆ

    • สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก


facial-design2-1200x1698.png
26/ก.ย./2023

 

ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่ดีเพ็ญ คลินิก
  • ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก เปิดรักษาใน จ. อยุธยา ตั้งแต่ปี พศ.2552 เป็นต้นมา  การฉีดโบจะเน้นความสวยงาม ตึง แต่ดูเป็นธรรมชาติ หลังฉีดดูสวย ดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่จะไม่ทราบว่าไปฉีดโบมา จึงมีคนไข้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง ที่ต้องการดูแลสุขภาพผิวตัวเอง หมุนเวียนมาฉีดเป็นประจำ
    โดยแนะนำให้ฉีด 1-2 ครั้งต่อปี  แต่ไม่ควรเกิน 3 ครั้งต่อปี เพื่อเลี่ยงภาวะการดื้อยา และไม่ควรห่างเกิน 1 ปี เพื่อเลี่ยงภาวะการเป็นริ้วรอยถาวร
  • ทายาชาประมาณ 40 นาที
  • ทางคลินิกจะมีบันทึกรายละเอียดการฉีดไว้ เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบการฉีดในอนาคต เพื่อให้ผลการดูแลดีที่สุด ของคนไข้
  • ทางคลินิกเน้นฉีด สวยแบบธรรมชาติ ตึงแต่ไม่แข็ง (แข็งๆ หมายถึง กล้ามเนื้อใบหน้าถูกบล็อคด้วยโบ ด้วยจำนวน unit ที่มากเกินไป  ทำให้แสดงสีหน้าไม่ได้ เพราะขยับกล้ามเนื้อไม่ได้เลย ไม่เป็นธรรมชาติ
    และจะเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนบางอย่างทั้งในปัจจุบันและอนาคต)
  • แพทย์ผ่านประสบการณ์การฉีดโบให้คนไข้จำนวนมาก และเป็นระยะเวลานานมาก มีความรู้และความสามารถ ที่เชี่ยวชาญและมั่นใจ
    ในการฉีดที่สวยงาม และเน้นความปลอดภัยของคนไข้สูงสุด
  • ทางคลินิกไม่มีราคาฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน มาขายเป็น unit หรือแบบเหมาขวด
  • ทางคลินิก คิดราคาการฉีดเหมาเป็นบริเวณ เช่น ฉีดทั่วหน้า  โดยจะใช้จำนวน unit  ไม่จำกัด*  แต่ต้องเหมาะสมกับขนาดกล้ามเนื้อ และปริมาณริ้วรอยที่เกิดขึ้นมาของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป โดยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน ตามความเห็นแพทย์ เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไข้ทั้งตามสวยงาม และความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง
  • ค่าใช้จ่ายการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน ในดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ เกิดจาก
    • ตัวโบทูลินั่ม ท็อกซินที่ใช้ (เหมาบริเวณที่ฉีด ไม่จำกัด unit ตามความเห็นแพทย์  + ค่าหัตถการฝีมือประสบการณ์แพทย์ผู้ฉีด)
    • ราคาจะ fix กับโปรโมชันที่ฉีด เช่น โปรโมชันฉีดรอยทั่วใบหน้า+ยกกระชับ  จะคิดราคาเดียว ไม่ว่าคนไข้จะมีรอยเยอะมากๆ หรือมีรอยน้อย ก็ตาม
    • ราคาฉีดสอบถามเพิ่มเติมที่คลินิก

final-dual-dipenn-resize.png
17/ส.ค./2023

Dual FMC

 

การดูแลผิวหน้าด้วย dual fmc สามารถทำให้เดือนละ 1 ครั้ง ถือเป็นการดูแลผิวหน้าได้ครบทั้งเรื่อง งานปรับคุณภาพผิวหน้า และ งานปรับความสว่างให้กับผิวหน้า
ทั้งการกระตุ้นคอลลาเจน รูขุมขนบำรุง ฟื้นฟูผิว การดูแลแบบย้อนวัย(rejuvenation) และเพิ่มความสว่าง ใส ให้กับผิว  สามารถทำได้ทุกสภาพผิวหน้า  ทั้งผู้ชาย หรือผู้หญิง ทุกช่วงอายุตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่


hifu-1-r800.png
14/ก.ย./2022

ไฮฟู HiFu

เลเซอร์ยกกระชับผิวหน้า คาง ปรับรูปหน้า 

6,900 บาท ต่อ ครั้ง

 

 

  • ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์คลินิก จ.อยุธยา
    คลินิกความงาม คลินิกโรคผิวหนังทั่วไป  ทำหน้าด้วยเลเซอร์ต่างๆ
    คลินิกเสริมความงาม
  • แพทย์ชัยนาท จ.ชัยนาท

Final-Sale-Promotion-For-Instagram-Post-2-1.png
06/ก.ค./2021

 

เลเซอร์ยกกระชับ ทำปีละ 1 ครั้ง    จ. อยุธยา

ลดริ้วรอย ยกกระชับผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้า ลำคอ

ที่ ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก   คลินิกความงาม ของ จ.อยุธยา

 

 

 

 

เลเซอร์ยกกระชับ  ยกกระชับ ลดความคล้อยของใบหน้า ลำคอ

สอบถาม ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก   

คลินิกเสริมความงาม ผิวหนัง  จ.อยุธยา

 

 

 

 


01/ก.ค./2021

ฉีดสิวดีไหม? อันตรายไหม? เป็นหลุมไหม? ปลอดภัยไหม? รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสิวอักเสบ

บทความเชิงวิชาการในรูปแบบ คำถาม-คำตอบ ที่พบเจอได้บ่อย เกี่ยวกับสิวอักเสบ

 

 

ฉีดสิวแล้ว เป็นวิธีหลุม?
  • ไม่เป็นหลุม (ถ้าทำตามหลักการแพทย์)  แต่ถ้าปล่อยสิวอักเสบนานๆ มีโอกาสเป็นหลุมสิวได้ และยิ่งอักเสบนานขึ้นเท่าไหร่ อัตราการเกิดหลุมจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

 


 

มีไหมที่ฉีดแล้วเป็นหลุม?
  • มี
    1. ไม่ได้ใช้ปริมาณยาในความเข้มข้นที่เหมาะสม และไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
    2. ไม่ได้ฉีดเข้าเม็ดสิว  เช่น ปลายเข็มทะลุออกไปเข้าชั้นไขมันแทน  ทำให้ตัวยาไปออกฤทธิ์ที่ชั้นไขมันแทน และมีการฉีดปริมาณยามากกว่าปกติของการฉีดสิว 1 เม็ด

 


ยากไหมที่ฉีดยาเข้าเม็ดสิว?
  • ไม่ยาก สิวอักเสบยิ่งเม็ดใหญ่ ยิ่งฉีดง่าย สิวอักเสบเม็ดเล็กลงจะฉีดยากขึ้น  ความยาก-ง่าย เปรียบเทียบเหมือนขับรถให้อยู่ในเลนถนน
  • หากเป็นผู้ชำนาญ โอกาสขับรถตกถนนเกิดขึ้นได้ยาก สำหรับแพทย์ที่ยังไม่ชำนาญโดยปกติ แพทย์จะเลือกฉีดสิวอักเสบเม็ดใหญ่อยู่แล้ว

 


 

หากไม่ชำนาญ ฉีดสิว แล้วยาออกไปนอกเม็ดสิวจะเกิดอะไรขึ้น?
  • มีโอกาสเกิดการยุบตัวของชั้นไขมันขึ้นได้ ซึ่งแปลผลว่าเกิดหลุมสิวจากการฉีดสิวได้
  • แต่โดยปกติ หากตัวยาถูกเตรียมไว้ด้วยความเข้มข้นที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว โอกาสเกิดหลุมจากชั้นไขมันยุบตัวนั้น ก็ยังมีโอกาสเกิดน้อยมากอยู่ดี
    เนื่องจาก หากเป็นแพทย์ที่ชำนาญแล้วโอกาสที่ตัวจะฉีดยาไปนอกเม็ดสิวจะเกิดยากแล้ว หากเกิดจริงปริมาณยาที่ฉีดออกไปนอกเม็ดสิวนั้น มักจะไม่มากมายพอ จนทำให้เกิดไขมันยุบตัวได้อยู่ดี
    เพราะการฉีดสิวแต่ละเม็ดนั้น ปริมาณยาที่ใช้จะใช้ไม่มากนัก เหมือนหยดน้ำ 1-2 หยด ต่อสิว 1 เม็ด ซึ่งปริมาณเท่านี้ไม่เพียงพอต่อการยุบตัวของชั้นไขมัน
    ( การยุบตัวของชั้นไขมันจะเกิดได้ ต้องเกิดจากตัวยาฉีดสิวที่เข้มข้นสูงและมีปริมาณมากพอ)
  • แต่หากเกิดจริง หลุมประเภทนี้จะต่างจากหลุมสิวที่เกิดจากสิวอักเสบ กลุ่มนี้จะฟื้นตัวขึ้นมาเองได้ประมาณ 2-3 เดือน

 


 

หลุมสิวที่เกิดจากสิวอักเสบจริงๆ กับหลุมสิวที่เกิดจากการฉีดสิวผิดพลาดต่างกันอย่างไร ?
  • หลุมสิวจากสิวอักเสบจริงๆ เกิดจากการหายไปของเนื้อผิว (dermis)   หลังระยะการซ๋อมแซมผิว (remodeling phase) แล้ว หากยังเหลืออยู่ จะการเป็นหลุมถาวร (ปัจจุบันรักษาได้)
  • หลุมสิวจากการฉีดสิวผิด เกิดจากชั้นไขมันยุบตัว  มีโอกาสหายเองได้ (ถ้าผสมยาถูกต้องตามหลักการแพทย์) เพราะผนึกยาจะมีโอกาสสลายเองได้ แต่ถ้าพบเจอไว มีโอกาสรักษาหายได้ในเวลารวดเร็ว ด้วยวิธีง่ายๆทางการแพทย์ ค่าใช้จ่ายต่ำ

 


ทำไมเมื่อมีสิวอักเสบจึงมีโอกาสเป็นหลุมสิว ถ้าปล่อยไว้นานๆ?
  • เพราะการอักเสบที่เกิดขึ้น หรือหนองจากสิว จะทำลายเนื้อผิวในบริเวณนั้น ร่วมกับขัดขวางขบวนการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
  • เปรียบเทียบให้เห็นภาพ  คนไข้คนที่1 ยิงไฝขนาด 0.5 ซม หลังยิงมีหลุมของตัวไฝ , คนไข้คนที่สอง ชอบบีบสิวจนอักเสบขนาด 0.5 ซม ใครมีโอกาสเป็นหลุมมากกว่ากัน?
    • คำตอบ คือคนไข้คนที่ 2 ที่เป็นสิวมีโอกาสเป็นหลุมมากกว่า เพราะคนไข้คนที่ 1 ที่ยิงไฝ ถือเป็นแผลสะอาด ไม่มีหนอง หรือการอักเสบขวางการสร้างคอลลาเจน ถึงแม้หลังทำจะเกิดหลุมเลเซอร์ขึ้นมา แต่ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนทดแทนได้ดีกว่า ดังนั้น การยิงไฝ ขี้แมลงวัน หากขนาดไม่ใหญ่เกินไป จะมีโอกาสเป็นหลุมหลังยิงเลเซอร์น้อยมาก
    • ส่วนคนที่เป็นสิวอักเสบหากมีการรบกวนสิวตลอด ทำให้เกิดการอักเสบซ้ำๆ ทำลายเนื้อผิวซ้ำๆ หายช้าเกินไป มีการขัดขวางขบวนการสร้างคอลลาเจนตามปกติ ทำให้มีโอกาสเกิดหลุมสิวตามมานั้นเอง

 


 

ถ้าหนองที่สิวไม่ดี เป็นสาเหตุให้เกิดหลุมสิว สามารถเอาออกมาเลยได้ไหม?
  • ถ้าออกได้ก็ดี แต่ปกติสิวอักเสบที่เม็ดใหญ่ ฐานของก้อนจะอยู่ลึกในชั้นหนังแท้ (dermis) ถ้ายังไม่มีจุดเชื่อม(tract) กับชั้นหนังกำพร้าที่ชัดเจน จะยังไม่สามารถเอาออกได้ง่าย

 


 

สิวอักเสบที่หนองเม็ดใหญ่ ถ้าอยู่ลึกมาก ผ่าออกเลยได้ไหม?
  • ผ่าได้ แต่มีโอกาสแผลเป็นชนิดบุ๋ม (dimple scar)  เพราะแนวแผลที่ใหญ่เกินไป ตัวหนองจะขวางการสร้างคอลลาเจนตามแนวรอยมีดผ่าตัดนั้นเอง  ดังนั้น ไม่ควรทำ

 


 

แล้วสิวอักเสบเม็ดใหญ่ จะรักษายังไง?
  • ทานยาปฏิชีวนะ , ทายากลุ่มลดการอักเสบ, ฉีดสิวเพื่อลดการอักเสบที่รุนแรง
  • เมื่อสิวอักเสบดีขึ้นจากการรักษา ร่างกายจะมีขบวนการช่วยกำจัดหนอง ทำให้เม็ดสิวอักเสบเม็ดใหญ่มีขนาดเล็กลง จะมีการยกตัวขึ้นจากชั้นหนังแท้ (dermis) เชื่อมเข้ากับชั้นหนังกำพร้า (epidermis) เกิด tract เล็กๆขึ้น  แพทย์จะใช้ปลายเข็มฉีดยา หรือบางท่านใช้เลเซอร์บางชนิด เจาะรูเล็กๆขึ้นมา เพื่อเอาหนองออก
  • การทำแบบนี้จะไม่เกิดรอยแผลเป็น เนื่องจากรอยเข็มฉีดยาเล็กมาก เหมือนการโดนฉีดยาตามปกติ

 


กลัวเจ็บหรือกังลกับการฉีดสิว ฉีดสิวจำเป็นไหม ไม่ฉีดได้ไหม?
  • ไม่จำเป็นต้องฉีดสิว หากไม่ใช้สิวประเภทสิวหัวช้าง  รักษาสิวอักเสบตามปกติ เช่น รับประทานยา ยาทา  และให้ดูแลเป็นภาพรวมรวมทั้งการป้องกันการเกิดสิวอุดตันใหม่ การป้องกันการเกิดการอักเสบใหม่ และปรับพฤติกรรมการรบกวนสิวให้ได้  รวมถึงยอมรับระยะเวลาสิวอักเสบที่หายช้ากว่าให้ได้
    เมื่อเทียบกับการฉีดสิว  เนื่องจากการฉีดสิวจะทำให้การอักเสบของสิวลดลงได้เร็วกว่ามาก ทำให้การยุบตัวของสิวอักเสบเกิดได้เร็วกว่าและมากกว่า
  • จำเป็น หรือควรฉีดสิว ในกรณีสิวที่มีการอักเสบรุนแรงมาก เป็นสิวหัวช้าง หรือเป็นฝีหนอง หากไม่ฉีดจะหายช้ามากๆ ซึ่งไม่น่าจะทันเรื่องของการป้องการการเกิดหลุมสิว

 


 

มีคนยืนยันจริงๆว่า เคยฉีดสิว แล้วหลังฉีดเป็นหลุมจริงๆ โดยฉีดกับแพทย์ที่ชำนาญแล้ว เก่งแล้ว
  • น่าจะเกิดในกลุ่มสิวอักเสบที่รุนแรง เช่น สิวหัวช้าง สิวที่เกิดฝีหนอง
  • เพราะสิวกลุ่มพวกนี้ มีโอกาสเกิดหลุมสิวไปแล้วสูง ยิ่งหายช้า จะเป็นเพิ่มมากขึ้น ยิ่งไม่ได้รักษาจะเป็นมากขึ้น
  • เป็นคำตอบในบางกรณีที่เมื่อสิวกลุ่มนี้หาย +เคยฉีดสิว คนไข้บางคนเข้าใจว่าหลุมสิวที่เหลือนั้นมาจากการฉีดสิว ความจริงก็คือ ถ้าไม่ฉีดสิวน่าจะมีหลุมสิวหนักกว่านี้

 


 

เป็นไปได้ไหมที่ฉีดสิวหัวช้าง แล้วฉีดยาไม่เข้าเม็ดสิว จึงทำให้เกิดหลุมสิวแทน?
  • เป็นไปได้ยากมาก  เพราะสิวหัวช้างจะมีขนาดเม็ดที่ใหญ่กว่าปกติมากอยู่แล้ว การฉีดยาให้ออกนอกเม็ดสิวหัวช้างน่าจะยากกว่าการฉีดเข้าเม็ดสิวมาก  เปรียบเทียบเหมือนขับรถไม่ให้ตกเลนถนนเอเซีย 3 เลน  ถึงแม้จะเป็นผู้เริ่มต้นก็ตาม ก็เกิดขึ้นได้ยาก ยิ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเทียบจะเป็นไปไม่ได้

 


เลเซอร์ดีกว่าการฉีดสิวไหม?
  • เหมือนถามว่า รถยนต์ดีกว่ามือถือไหม? เพราะมันดีคนละแบบ แต่เอามาแทนกันไม่ได้
  • ฉีดสิวใช้รักษาสิวอักเสบ
  • เลเซอร์ขึ้นอยู่กับแต่ละเครื่อง  ว่าเครื่องผลิตมาเพื่อวัตถุประสงค์หลักอะไร เช่น รักษารอยดำ รักษารอยแดง หน้าใส กำจัดขน กระตุ้นคอลลาเจน  เป็นต้น  โดยเลเซอร์จะมีวัตถุประสงค์รองด้วยเสมอ เช่น เลเซอร์รักษากำจัดขน (วัตถุุประสงค์หลัก) แต่สามารถช่วยทำให้ผิวหน้าเนียนใสขึ้นได้ (วัตถุประสงค์รอง) ขึ้นกับการตั้งค่าการทำงานของเครื่องเลเซอร์นั้นๆ

 


 

เคยมีบางคนบอกว่า อย่าฉีดสิวเพราะจะเกิดหลุมสิว ให้ทำเลเซอร์ดีกว่าเพื่อป้องกันหลุมสิว เพราะเลเซอร์กระตุ้นคอลลาเจนป้องกันหลุมสิวได้ และรักษาสิวอักเสบได้ดีกว่าด้วย?
  • กรณีสิวอักเสบหัวช้าง อักเสบรุนแรง
    • หากกลัวเป็นหลุมสิว แนะนำให้ฉีดสิว และสามารถเลือกทำเลเซอร์ควบคู่ไปด้วยได้เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด
    • ไม่ฉีดสิวอักเสบกลุ่มสิวรุนแรงนี้ แล้วไปทำเลเซอร์เพียงอย่างเดียว มีโอกาสเกิดหลุมสิวมากกว่า เพราะระยะเวลาการหายจะใช้เวลานานกว่า
    • เลเซอร์ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้จริง ช่วยป้องกันหลุมสิวได้จริง รักษาสิวอักเสบได้จริง แต่ไม่ได้ดีไปกว่าการฉีดสิว เพื่อรักษาสิวอักเสบ
    • ยกตย. เปรียบเทียบ  เหมือนคนหิวน้ำ ไม่ไปดื่มน้ำ แต่ไปซื้อปลาแซลมอลมาทานแทน เพราะได้ยินมาว่ามีงานวิจัยบอกว่า”ปลาแซลมอลสามารถเพิ่มระดับน้ำในร่างกายได้ดี” แต่ความเป็นจริง เมื่อต้องการน้ำก็ให้ดื่มน้ำ ส่วนจะทานปลาแซลมอลเพิ่มเสริมด้วยหรือไม่ แล้วแต่ความสมัครใจ
  • กรณีสิวอักเสบเม็ดเล็ก
    • ไม่จำเป็นต้องฉีดสิว เนื่องจาก ทายาลดการอักเสบ หรือทานยาปฏิชีวนะ ร่วมกับการปรับลดพฤติกรรมการรบกวนหน้า ก็สามารถหายได้ในเวลาไม่นาน
    • ไม่จำเป็นต้องทำเลเซอร์เช่นกัน แต่สามารถเลือกทำเลเซอร์ควบคู่การรักษาได้ เช่น ช่วยปรับรอยดำ รอยแดง จากสิว เร่งกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อป้องกันหลุมสิว เป็นต้น

 


ฉีดสิวแล้วไม่ยุบ, ฉีดสิวไป 3-4 ครั้งแล้วทำไมไม่หาย, ฉีดสิวแล้วทำให้เป็นสิวเรื้อรังได้ไหม?
  • ยาฉีดสิวจะลดการอักเสบให้สิวได้แค่ประมาณ 1-2 วัน เท่านั้น  เหมือนทานพารา 1 เม็ด ก็ไม่สามารถลดปวด ลดไข้ ไปได้ทั้งอาทิตย์
  • หากสิวมีขนาดใหญ่มาก ปกติเมื่อลดการอักเสบได้ ขนาดสิวจะเล็กลงแล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องหายหมด เนื่องจากต้องรอให้ร่างกายค่อยๆใช้ขบวนการกำจัดหนองสิวร่วมด้วย
    เมื่อฉีดสิวแล้ว แนะนำให้ใช้ประโยชน์จากการฉีดสิวให้เติมที่ คือ พยายามไม่รบกวนสิว สิวก็จะมีขนาดที่เล็กลงต่อเนื่อง และจะตอบสนองกับการรักษาอื่นๆได้ดีขึ้นด้วย
  • หากมีการรบกวนสิวขึ้นมาใหม่ สิวอักเสบที่พึ่งฉีดสิวไปสามารถอักเสบขี้นมาใหม่ได้  มีขนาดใหญ่กว่าเดิมก็ได้ ขึ้นอยู่กับการรบกวนว่ามากน้อยแค่ไหน

 


 

ฉีดสิวแล้วทำให้เกิดไตแข็งๆขึ้นมาแทน?
  • ผิด
    1. เพราะเป็นไตแข็งๆอยู่ก่อนแล้ว เลยมาฉีดสิว เนื่องจากเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง (cystic acne)  เมื่อฉีดแล้วสิวไม่จำเป็นต้องยุบหมด จึงมีไตแข็งๆเหลืออยู่ บางกรณีถ้ายังติดรบกวนสิว จะทำให้มีขนาดไตใหญ่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมก็ได้
    2. กรณีสิวหายแล้ว กลายเป็นไตแข็งๆตามมาทีหลัง ก็คือ hypertrophic scar หรือ อาจจะเป็น keloid scar นั้นเอง ซึ่งไม่ได้มีสาเหตุจากการฉีดสิวแต่อย่างใด แต่เกิดจากการปล่อยให้สิวอักเสบยาวนานมากเกินไป ตำแหน่งที่ควรระวัง เนื่องจากเกิดได้บ่อย
      ก็คือ บริเวณใต้คาง คอ  ดังนั้น หากมีสิวเม็ดใหญ่บริเวณนี้ แนะนำให้รักษา ถ้าเกิดสิวอักเสบเม็ดใหญ่ แนะนำให้ฉีดสิว ให้หายไวที่สุด ก็จะลดอัตราการเกิด hypertrophic scar ในบริเวณนี้ได้  เมื่อสิ้นสุดการรักษา hypertrophic scar ที่ยังเกิดขึ้น มีอยู่
      ก็ไม่ได้เกิดจากการฉีดสิว แต่ถ้าไม่ได้ฉีดสิวคงจะมีมากกว่านี้

 


 

แล้ว hypertrophic scar หรือ keloid scar เกิดจากอะไร ?
  • พบในคนไข้ที่มีสิวอักเสบรุนแรง เรื้อร้ง และใช้เวลาในการรักษานานมากเกินไป
  • จนร่ายกายไม่สามารถใช้ขบวนการกำจัดหนองสิวได้ตามปกติ
  • ร่างกายเลือกสร้างคอลลาเจนชนิดที่เส้นใยหนาเป็นพิเศษ แทนคอลลาเจนขนาดปกติ กลายเป็นไตเนื้อเยื่อแข็งๆขึ้นมาแทนซึ่งก็คือ hypertrophic scar หรือ อาจจะเป็น keloid scar ก็ได้
  • พบได้บ่อยบริเวณคาง หรือใต้คาง
  • การฉีดสิวเป็นตัวเลือกที่ดีและจำเป็นมากในระยะเวลาแรกๆของการรักษา ร่วมกับการควบคุมการรบกวนใบหน้า  แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุการเกิด hypertrophic scar หรือ keloid แต่อย่างใด
    ตรงกันข้าม การฉีดสิวได้ช่วยให้เกิดปัญหาน้อยลงแล้ว

 


 

การฉีดสิวทำให้เป็นสิวได้ง่ายขึ้นไหม?
  • สิวมีสาเหตุการเกิดหลากหลายสาเหตุ มากน้อยต่างกัน แต่ไม่มีสาเหตุการเกิดสิวใดๆ มาจากการฉีดสิว
  • แม้การกระทั้งสิวสเตียรอยด์นั้นก็ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการฉีดสิวแต่อย่างใด

 


สิวสเตียรอยด์เกิดจากการฉีดสิวได้ไหม?
  • สิวสเตียรอยด์เกิดจากการใช้ครีมผสมสารสเตียรอย์ด หรือทายาสเตียรอยด์ความเข้มข้นสูงโดยตรง บริเวณใบหน้าติดต่อกันนานหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน
  • การฉีดสิวไม่ทำให้เกิดสิวสเตียรอย์ด เนื่องจาก
    • การฉีดสิวจะผสมยาเจือจางมาก และเมื่อฉีดเข้าเม็ดสิวโดยตรง สิวอักเสบซึ่งมีลักษณะเป็นถุง (sac) หนองอักเสบ จะมีจุดเชื่อมต่อกับรูขุมขนเสมอ (folliculopilosebaceous unit)
      จะถูกจำกัดปริมาณยาที่ฉีดให้พอดี ไม่มากเกินไปโดยปริยาย เพราะยาฉีดสิวจะถูกดันตัวอยู่ในถุงหนองอักเสบ (sac) หรือ พุ่งออกมาทางรูขุมขน ซึ่งเป็นทางออกที่เชื่อมกับ sac นั้นเอง
    • การฉีดสิวเป็นการออกฤทธิ์เฉพาะจุด ได้แค่ตำแหน่งที่ฉีดเท่านั้น เช่น มีสิวอักเสบ 10 จุด ก็ต้องฉีดสิวอักเสบ 10 จุด ไม่สามารถออกฤทธิ์เป็นวงกว้างได้ แม้เม็ดสิวอักเสบ 2 เม็ดที่อยู่ติดๆกัน
      ถ้าต้องการฉีดสิวก็ต้องฉีดทั้ง 2 เม็ด

 


สรุป การฉีดสิวเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการรักษาสิวเท่านั้น ถึงแม้จะไม่อันตรายหากทำตามเงื่อนไขได้ถูกต้อง แต่ก็ไม่สามารถใช้การฉีดสิวเพื่อรักษาสิวได้ทั้งหมด
การรักษาสิวต้องทำเป็นภาพรวมทั้งหมด ทั้งหาสาเหตุการเกิดสิว การรักษาสิวอุดตัน รักษาสิวอักเสบ รักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ รวมถึงการป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของสิว และการดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธีหลังจากสิวหายแล้วด้วย

 

บทความโดย

นพ.วรฤทธิ์ เอกวัฒนกุล และ พญ.ดีเพ็ญ ลิมปโอวาท

ประกอบด้วยแพทย์จบการศึกษา

  • Board of Anatomical pathology, Faculty of medicine, Ramathibodi Hospital, Mahidol University
  • Master of Science in Dermatology, Faculty of medicine, Srinakharinwirot University
    (ตจวิทยา:ผิวหนัง,M.Sc.in Dermatology)

ดีเพ็ญ-วรฤทธิ์ คลินิก จ.อยุธยา

แพทย์ชัยนาท คลินิก จ.ชัยนาท


Logo_white_Footer

“จะดีกว่าไหม? หากมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญคอยดูแล ทั้งเรื่องผิวพรรณ ความงาม สุขภาพผิว
โรคผิวหนัง และปัญหาเส้นผม ด้วยความเอาใจใส่”